Powered by Blogger.

GNSS Receiver ใน NTP Server สำคัญอย่างไร


GNSS Receiver ใน NTP Server สำคัญอย่างไร

วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ การรับสัญญาณอ้างอิงของ NTP Server จากระบบ GPS และ GNSS กัน
เดิมที NTP Server จะมีการรับสัญญาณอ้างอิงเวลามาตรฐานจาก ระบบดาวเทียม GPS เพียงระบบเดียว แต่ในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีของอุปกรณ์ประเภท NTP Server และ PTP Server ก็ได้มีการพัฒนาให้มีการรับสัญญาณจากระบบดาวเทียม GNSS เพิ่มเติมขึ้นมา
GNSS (Global Navigation Satellite System) ได้เข้ามาแทนที่ GPS ซึ่ง GNSS โดยทั่วไปจะครอบคลุมถึงระบบดาวเทียมหลัก 4 ระบบได้แก่

  • GPS   ของ สหรัฐอเมริกา
  • GLONASS  ของ รัสเซีย
  • Galileo   ของ สหภาพยุโรป
  • BeiDou   ของ จีน




อุปกรณ์ NTP Server ที่รับสัญญาณอ้างอิงเวลาจาก GNSS มีสมรรถนะ และประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น เหนือชั้นกว่าการรับสัญญาณ GPS แต่เพียงอย่างเดียว

หน้าที่หลักของอุปกรณ์ NTP Server กล่าวคือ ตัวอุปกรณ์จะต้องทำการรับสัญญาณดาวเทียม (Tracking) ตลอดเวลา เพื่อนำสัญญาณที่ได้มาประมวลผล และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเวลามาตรฐาน ทั้งในรูปแบบ โปรโตคอล NTP หรือ โปรโตคอล PTP เมื่อใดก็ตามที่ NTP Server ไม่ได้รับสัญญาณดาวเทียม ตัว NTP Server ก็จะจ่ายเวลามาตรฐาน โดยใช้ฐานเวลาจากแหล่งกำเนิดสัญญาณภายใน (Oscillator) ซึ่งทำงานในโหมดนี้ เรียกว่า Holdover mode หรือ Free running
ถึงแม้ว่า NTP Server จะจ่ายเวลามาตรฐานต่อเนื่องได้ตามปกติ แต่ค่าความแม่นยำ (Accuracy) ก็ยังด้อยกว่า เวลาที่ประมวลผล ออกมาจากสัญญาณดาวเทียมโดยตรง
โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่ได้เริ่มมีการใช้งาน โปรโตคอล PTP เข้ามาทดแทน โปรโตคอล NTP  ค่าความแม่นยำของเวลาที่ PTP Server จ่ายออกมา มีคุณภาพที่สูงกว่าเดิมมาก โดยค่า Accuracy ตามมาตรฐานของ PTP จะมีค่าอยู่ในระดับของ “nanosecond” หรือในบางกรณี จะกล่าวถึงในช่วงกว้างขึ้น ในระดับที่เรียกว่า sub-microsecond ดังนั้นการรับสัญญาณดาวเทียมของ Receiver ของ NTP Server และ PTP Server จึงมีความสำคัญมาก

ภาพแสดงตัวอย่างการรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS เพียงระบบเดียว จากการทดสอบรับสัญญาณจริง
การรับสัญญาณดาวเทียมในบางช่วงเวลา ได้สัญญาณดาวเทียม น้อยกว่า 4 ดวง
ส่งผลให้ Receiver เกิดการหลุดของการ  Lock สัญญาณดาวเทียม


* หมายเหตุ การทำงานของ Receiver มาตรฐานที่ต้องการความแม่นยำสูง จะต้องได้รับสัญญาณดาวเทียม อย่างน้อย 4 ดวง ตลอดเวลา ถ้ารับได้น้อยกว่า 4 ดวง ก็จะอยู่ในช่วงเวลาที่หลุดการ Lock สัญญาณ

เปรียบเทียบกับการรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS + GLONASS
สัญญาณจาก GLONASS จะช่วยเสริมการรับสัญญาณ  ช่วยอุดช่องว่างในช่วงเวลาที่ GPS เฟดหายไป



เมื่อมาถึงจุดนี้ ในการเลือกติดตั้งอุปกรณ์ NTP Server และ PTP Server ครั้งต่อไป เราจึงควรจะเลือกอุปกรณ์ที่รองรับระบบ GNSS แทนอุปกรณ์ที่รองรับ GPS เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้เรามั่นใจได้ว่า NTP Server และ PTP Server ที่เราเลือกใช้งานนั้น ทำงานได้ถูกต้องตรงตามมาตรฐานอย่างแท้จริง

NTP Server SecureSync จาก Spectracom เป็นอุปกรณ์ที่รองรับ การทำงาน GNSS ได้อย่างสมบูรณ์



ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบระบบ ก็สามารถติดต่อมาได้ เรายินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ออกแบบในการติดตั้ง


ติดต่อ
คุณยุทธนา  Tel: 089-136 6399
info@netsync.co.th    
yutthana@netsync.co.th





Read more

GNSS Jamming and Spoofing


GNSS Jamming and Spoofing


เมื่อเทคโนโลยีของ GNSS  มีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น ในกลุ่มอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ กลุ่มสถาบันการเงิน ธนาคาร กลุ่มสาธารณูประโภค โรงไฟฟ้า การขนส่ง กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบวิทยุโทรทัศน์ หน่วยงานต่างๆที่กล่าวมา จะมีการใช้สัญญาณ GNSS เพื่อเป็นสัญญาณอ้างอิง และนำมาประมวลผลเพื่อใช้ในอุปกรณ์ เช่น NTP server สำหรับเวลามาตรฐาน ระบบ Time & Frequency reference สำหรับเวลาและความถี่ของอุปกรณ์สื่อสาร ระบบติดตามตำแหน่งยานพาหนะ และเมื่อสัญญาณ GNSS มีความสำคัญมากขึ้น ก็ย่อมจะมีปัญหาที่เกิดขึ้นตามมา


Jamming (Interference)

Jamming คือสัญญาณรบกวน หรือที่เรียกกันอีกคำหนึ่งว่า interference ในกรณีของสัญญาณที่เข้ามารบกวนการรับสัญญาณ GNSS มีต้นกำเนิดมาได้จาก
สัญญาณที่ตั้งใจให้เกิดขึ้น (Intended Jamming signal) คือสัญญาณที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตสัญญาณขึ้นมาในย่านความถี่ GPS ที่ต้องการที่จะขัดขวางการทำงาน เช่น สัญญาณรบกวนจาก GPS Jammer
GPS Jammer เป็นอุปกรณ์ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตัดสัญญาณ GPS ยกตัวอย่าง เช่น GPS Jammer ขนาดเล็ก ที่ใช้กับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ (cigarette lighter plug) ผลิตขึ้นมาเพื่อตัดสัญญาณ เช่น รถยนต์ของบริษัทขนส่ง รถยนต์ที่ต้องวิ่งตามเส้นทาง มักจะมีการติดตั้ง GPS tracking equipment เพื่อให้ทราบว่า รถยนต์ของบริษัท วิ่งไปในเส้นทางที่กำหนด ไม่ออกนอกเส้นทาง แต่พนักงานขับรถ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจและมีความต้องการ ที่จะนำรถไปใช้ในกิจอื่นๆ และไม่ต้องการให้บริษัททราบ ก็จะนำอุปกรณ์ดังกล่าวมาต่อใช้งาน ซึ่ง GPS Jammer ก็จะรบกวนสัญญาณ GPS ทำให้ระบบติดตาม ไม่สามารถบันทึกเส้นทางได้ พนักงานขับรถจึงสามารถเอารถไปใช้ได้ โดยไม่มีการบันทึกว่าไปไหน



 

กรณี GPS Jammer แบบนี้ ทำให้เกิดปัญหามากมายใน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะเมื่อมีรถยนต์ที่ติดตั้ง Jammer วิ่งผ่านอาคาร สนามบิน หรือบริเวณหน่วยงาน ที่ต้องรับสัญญาณ GPS ตัวอุปกรณ์ดังกล่าว ก็จะแพร่คลื่นออกมา ทำให้ระบบต่างๆ ของหน่วยงานล้มเหลว ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์สื่อสารได้ในระหว่างที่รถคันดังกล่าววิ่งผ่าน ระบบเวลาผิดพลาด ดังนั้นจึงได้มีการแบน หรือห้ามใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว และถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา แต่ถึงกระนั้นอุปกรณ์ Jammer ทั้งหลายก็ยังสามารถหาซื้อได้โดยง่าย เช่น สั่งซื้อจากเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต

ถึงแม้อุปกรณ์ Jammer ตัวเล็กๆ ที่แพร่คลื่นด้วยกำลังส่งไม่มาก แต่ก็ยังสามารถรบกวนสัญญาณ GPS ได้ เพราะว่า สัญญาณ GNSS ที่ส่งมาจากดาวเทียม มีค่าความแรงของสัญญาณที่ต่ำมาก โดยสัญญาณ GPS ที่รับได้บนพื้นผิวโลกจะมีค่าความแรงสัญญาณเพียงแค่ -130 dBm ดังนันอุปกรณ์ Jammer ดังกล่าว เมื่ออยู่ในระยะที่ไม่ห่างกันมาก ก็ถือว่ามีความแรงมากพอที่จะบดบังสัญญาณดาวเทียมได้โดยง่าย

สัญญาณรบกวน ที่เกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ (Unintended Jamming signal) คือสัญญาณรบกวน ที่เกิดขึ้นจากระบบสื่อสารอื่นๆ ที่แพร่ความถี่ข้างเคียงออกมา ซึ่งอาจเกิดจากระบบการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ เช่น ความถี่ Harmonic ของวิทยุสื่อสาร สัญญาณ Spurious ต่างๆ และนี่ก็เป็นอีกต้นเหตุหนึ่งของสัญญาณ Jamming

ในบางกรณีสัญญาณแบบ Unintended Jamming เกิดจากการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสาร ที่อยู่ใกล้กัน และมีการแผ่คลื่นออกมาจากสายอากาศ ในทิศทางรอบข้าง ที่เรียกว่า Sidelobes ซึ่งสัญญาณรบกวนในลักษณะนี้ สามารถทำการแก้ไขโดยการย้ายตำแหน่งสายอากาศของอุปกรณ์สื่อสาร ที่มีความถี่ที่อาจจะคาบเกี่ยวกัน ไม่ให้อยู่ใกล้กันก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการรบกวนได้



Spoofing

Spoofing คือสัญญาณ GNSS ที่ปลอมแปลงขึ้น หรือสัญญาณเท็จ โดยที่เครื่องรับ เมื่อ GNSS receiver รับสัญญาณดังกล่าวไปประมวลผลจะไม่ทราบว่า สัญญาณดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ปลอมขึ้นมา เพราะสัญญาณ spoofing ดังกล่าว จัดทำขึ้นในรูปแบบเดียวกันกับสัญญาณ GNSS จริงทุกประการ แต่มีจุดมุ่งหมาย ที่จะใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เช่น ตำแหน่งพิกัดปลอม เวลาปลอม ให้กับเครื่องรับสัญญาณ โดยกรณีของ spoofing เป็นการจงใจที่จะหลอกให้เครื่องรับสัญญาณ ทำงานผิดพลาด เช่นเหตุการณ์ การเดินเรือใน Black sea ในทวีปยุโรป (Spoofing attack in Black sea) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2017 ซึ่งการทำงานของระบบพิกัดการเดินเรือจำนวนหลายสิบลำ ทำงานผิดพลาด โดยมีการคาดคะเนว่า สัญญาณดังกล่าวอาจมาจากการทดสอบระบบป้องกันทางทหารของทางรัสเซีย

https://maritime-executive.com/editorials/mass-gps-spoofing-attack-in-black-sea

สัญญาณ spoofing ก็ได้มีการนำมาใช้ในเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง เช่น การกวนสัญญาณของอากาศยานไร้คนขับ Drone โดยการทำงานของโดรนจะอ้างอิงถึงพิกัดที่ได้จากดาวเทียม GNSS โดรนจะบินไปยังตำแหน่งที่บังคับหรือตั้งค่าไว้ ดังนั้นเครื่องมือที่ใช้สำหรับ ต่อต้านโดรนก็ใช้หลักการ ส่งข้อมูลพิกัดที่ต้องการไปยังโดรน บังคับให้การเคลื่อนที่ของโดรนไปในทิศทางที่ต้องการ หรือลงจอดยังตำแหน่งที่ควบคุม

สำหรับการสร้างสัญญาณ spoofing ในปัจจุบันก็สามารถทำได้โดยอาศัยอุปกรณ์ เช่น GNSS Simulator และอุปกรณ์ Software Defined Radio ซึ่งแน่นอนว่าสัญญาณจาก GNSS Simulator จะมีความเหมือนกับสัญญาณดาวเทียมจริง และ Simulator ก็เป็นอุปกรณ์สำหรับการทดสอบการรับสัญญาณ GNSS ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากผู้ผลิตอุปกรณ์ทดสอบ เช่น GSG-5 ของ Spectracom



ลิ้งต่อไปนี้แสดงตัวอย่างสัญญาณที่สร้างจาก Simulator   GPS Simulation demonstration - Driving on motorway

GPS receiver เมื่อรับสัญญาณ จะเหมือนกับการออกไปขับรถบนถนน โดยวิ่งไปตามเส้นทางต่างๆ โดยที่ในสภาพจริงอุปกรณ์รับสัญญาณตั้งอยู่กับที่ในห้องทดสอบ


ส่วนอุปกรณ์ SDR ก็เป็นอุปกรณ์ ที่ใช้หลักการของ Digital Signal Processing โดยการสร้างสัญญาณ GPS ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และมีภาคของเครื่องส่งที่จ่ายสัญญาณคลื่นวิทยุออกมา และในปัจจุบันมีเว็บไซด์ที่แนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน การเขียนโปรแกรมสำหรับ SDR ค่อนข้างแพร่หลาย และราคาของอุปกรณ์ SDR ก็ไม่สูงอย่าง Simulator ซึ่งผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมก็สามารถใช้ SDR เพื่อสร้างสัญญาณ spoofing ได้


แม้กระทั่ง ในช่วงเวลาที่เกมส์ Pokemon Go กำลังโด่งดัง ก็มีผู้ใช้งานสมัครเล่น สร้างสัญญาณ spoofing จาก Software Defined Radio เพื่อหลอกให้ตำแหน่งของเครื่องรับ GPS ผิดพลาด โดยไม่ต้องออกไปเดินในภาคสนามจริง แต่สามารถเก็บ item ในเกมส์เหมือนกับว่าได้ออกไปในบริเวณนั้น

Jamming และ Spoofing ถือเป็นภัยคุกคามต่ออุปกรณ์ GNSS เพราะเมื่อมีการรบกวน ระบบที่ใช้สัญญาณ GNSS ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ หรือทำงานผิดพลาดไปซึ่งส่งผลเสียอย่างมหาศาลในทางเศรษฐกิจ และอาจส่งผลให้ระบบที่ต้องการความปลอดภัย เช่น ระบบนำร่องของอากาศยาน เสี่ยงต่อความล้มเหลว


Talen-X ได้มีผลิตภัณฑ์ สำหรับการตรวจจับสัญญาณ Jamming และ Spoofing ที่ชื่อว่า BroadSense ออกมา โดย BroadSense เป็นอุปกรณ์ที่ได้มีการพัฒนาและใช้งานจริงในหน่วยงานต่างๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา มาตั้งแต่ปี 2008 จากช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ได้มีการพัฒนาต่อยอด อุปกรณ์ BroadSense ได้มีกระบวนการตรวจสอบสัญญาณรบกวนในรูปแบบต่างๆ ที่มากถึง 75 algorithm

จากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น BroadSense เคยตรวจพบกรณีของ spoofing ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของระบบดาวเทียม GPS เอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวศูนย์ควบคุมระบบของ GPS ส่งข้อมูลเวลาที่ผิดพลาด ขึ้นไปยังดาวเทียม GPS และดาวเทียม GPS ได้แพร่ข้อมูลเวลาที่ผิด ออกมาในช่วงเวลานานถึง 12 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2516 ในครั้งนั้น บริษัทใหญ่หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป เกิดความโกลาหล ระบบเวลาของคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาด เวลามีการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน โดย BroadSense ได้ตรวจพบข้อผิดพลาดดังกล่าว ก่อนที่ผู้ดูแลระบบ GPS ของ US Air Force จะออกมาแถลงถึงความผิดพลาดหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง

https://www.bbc.com/news/technology-35491962


BroadSense จึงเป็นอุปกรณ์ตรวจจับ สัญญาณรบกวน Spoofing และ Jamming ที่มีความสำคัญมากในอนาคตอันใกล้ เพราะหน่วยงานสำคัญ ที่จะต้องใช้สัญญาณ GNSS เช่น โรงไฟฟ้า สถาบันการเงิน สนามบิน เครือข่ายระบบสื่อสาร ถ้าสัญญาณ GNSS ถูกรบกวนย่อมส่งผลเสียหาย อันมิอาจประเมินค่า

โดย BroadSense ที่มีการผลิตออกมาจะมีในลักษณะ 2 รูปแบบ ทั้งแบบ Tablet  ซึ่งจะความเหมาะสมในการนำออกไปใช้ได้ในภาคสนามจริง และแบบ Standalone เพื่อติดตั้งในสถานี บริเวณการรับสัญญาณ GNSS


BroadSense สามารถตรวจสอบสัญญาณ Jamming และ Spoofing ได้ดังต่อไปนี้
Detect Jamming
       Continuous Wave (CW)
       Swept CW
       Pulsed CW
       AWGN
       BPSK
       Etc.
Detect Spoofing
       GNSS simulators
       Anomalies in GPS data
       Jumps in position and time
       And everything in between




อุปกรณ์ตัวนี้ได้ถูกจัดอยู่ในหมวดของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับทางด้านความมั่นคง ดังนั้นจึงไม่มีการขายให้กับต่างชาติ และแม้กระทั่งผู้ซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว จะต้องเป็น US Citizen เท่านั้น ซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์ Talen-X จะมีการตรวจสอบผู้ซื้อก่อนที่จะขายสินค้าให้ ดังนั้นในอดีตอุปกรณ์ดังกล่าวจึงถูกจำกัดวงให้ใช้อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีรั่วไหลออกไปยังต่างชาติ

ปัจจุบัน Talen-X ซึ่งเป็นผู้ผลิดอุปกรณ์ Jamming and Spoofing Detection ได้มาเป็นบริษัทในเครือของ Orolia Group ดังนั้น เราจึงสามารถซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวได้ โดยผ่านช่องทางของ Spectracom ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านสินค้า Positioning Navigation and Timing เช่น NTP server ยอดนิยมอย่าง SecureSync ที่มีการใช้งานแพร่หลายในประเทศไทย

https://www.talen-x.com/broadsense




บริษัท NetSync (Thailand) Limited มีความยินดีที่จะให้คำปรึกษาเรื่องระบบ Master Clock, NTP Server, Time & Frequency system


ติดต่อ คุณยุทธนา  Tel: 089-136 6399
info@netsync.co.th    
yutthana@netsync.co.th

Read more